8.21.2551

The Masculine Mystique: Paris&Milan Menswear A/W 2008-2009

ทุกวันนี้ แฟชั่นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของสุภาพบุรุษมีความหลากหลายในเรื่องรูปแบบและรายละเอียดยิ่งขึ้น และมีคนในวงการแฟชั่นให้ความสนใจมากขึ้นตามลำดับ หลายห้องเสื้อที่เคยส่งคอลเล็กชั่นสำหรับสุภาพสตรีออกสู่สายตาชาวโลก บัดนี้ก็เริ่มเห็นความสำคัญของตลาดแฟชั่นของเพศตรงข้ามกันบ้าง ในช่วง Autumn/Winter ที่จะถึงนี้ทั้งปารีสและมิลานต่างมุ่งสู่ทิศทางที่น่าค้นหา ไม่ว่าจะย้อนไปสู่ยุคโรแมนติกและยุคคลาสสิก หรือหลุดไปสู่ความบ้าหลุดโลกที่ยากต่อการระบุช่วงเวลาอ้างอิง

แว่บแรกที่ผมได้ดูแฟชั่นวีคของซีซั่นนี้ ก็รู้สึกได้ว่า ผู้ชายประจำฤดูกาลใหม่ต่างนัดกันใส่สูท ผูกไทกันอย่างเต็มที่ แต่ถูกลดดีกรีความเป็นทางการ เช่นที่ Salvatore Ferragamo หรือ Giorgio Armani ที่เสมือนอยู่ในไนต์คลับสุดฮิตในนิวยอร์กอย่าง Visconti ส่วนที่ Prada นักเล่นแร่แปรธาตุมือฉมังอย่าง Miuccia ตีความสูทเทเลอร์คัทเสียจนแทบไม่เหลือเค้ารอยเดิม และเมื่อมองดูเผินๆ ผู้ชาย Prada ช่างเหมือนผู้หญิงเสียเหลือเกิน

Salvatore Ferragamo
Giorgio Armani
Prada

ในขณะที่ inspiration ที่ได้จากเหล่าสาวๆ ยังมีให้เห็นอยู่ต่อเนื่อง ลุคแบบ 'French Dandy' จึงเป็นเสมือนพระเอกที่ทำให้พาเหรดแฟชั่นคราวนี้ยังคงมีความเป็น Menswear ได้อย่างเต็มภาคภูมิ ที่ Lanvin ด้วยกระเป๋าถือใบย่อม (ที่ดูยังงัยก็ขัดตา) กับเสื้อแจ๊คเก็ต boxy เชิ้ตผ้าไหม และกางเกงทรงหลวม ที่ Burberry Prorsum ได้เอา preppy school เข้ามาผสมทำให้หนุ่มเจ้าสำราญดูอ่อนวัยลง ด้วยเสื้อถักจากขนสัตว์ ส่วน Kris Van Assche เล่นกับสีโทนมืดจนทำให้ Dior Homme คราวนี้ดูขรึมขึ้น บวกกับการสร้างซิลลูเอตที่ต่างออกไปจากเก่าก่อน เช่นกางเกงแบบ MC Hammer และเชิ้ตสไตล์ Barry London แต่การจะทำให้แบรนด์ที่ Hedi Slimane เคยทำไว้อย่างดีที่สุดยังคงความเป็นที่สุดไว้ได้ คงต้องเหนื่อยกันอีกพักใหญ่


Lanvin
Burberry Prorsum
Dior Homme

Dolce&Gabana ดึงดูดสายตาด้วยโค๊ทขนแกะ ส่วน Versace ออกคอลเล็กชั่นที่เนืองแน่นไปด้วยโค๊ทแบบ maxi สร้างลุคแบบผู้ชายดิบๆ ได้เป็นอย่างดี

Dolce&Gabbana
Versace

ความสง่างามแบบลูกผสม Anglo-American จัดเป็น hot topic ประจำซีซั่น Junya Watanabe เลือกหยิบแจ๊คเก็ตแบบ Brooks Brothers มาเข้าคู่กับกางเกงยีนส์ม้วนปลายขา ที่ Costume National กับการรวมตัวของเสื้อ blazer สุดชิคและเสื้อโค๊ทสีคาเมล ทางฟาก Bottega Veneta นั้น Tomas Maier สร้างอารมณ์สุนทรีด้วยซิลลูเอต A-line จากแจ๊คเก็ตเข้ารูปกับกางเกงที่มีช่วงขากว้าง เราได้เห็นสูททรงหลวมที่ Yohji Yamamoto พร้อมลายสก็อตสุดคลาสสิก

Junya Watanabe

Costume National
Bottega Veneta
Yohji Yamamoto


อิทธิพลดนตรี folk และ rock ยังเป็นสิ่งที่ชวนถวิลหา ด้ยแรงบันดาลใจจาก Bob Dylan ที่ Ann Demeulemeester Kurt Cobain ในลุคคาวบอยหนุ่ม ที่ Number (N)ine

Ann Demeulemeester

Number (N)ine

ผู้ชายในสไตล์ less is more มีให้เห็นที่ Fendi และ Alessandro Dell'Acqua ผู้ชายแบบ neo-sporty ที่ Marni ผู้ชายมีพลังที่ Raf Simons ด้วยแจ๊คเก็ต angular จากผ้าถัก และกางเกง skinny ผู้ชายแบบบางที่ Jil Sander ที่คราวนี้ดึงดูดสายตาด้วยลายตาราง ลายเปื้อนสี และลายหินอ่อน

Fendi
Alessandro Dell'Acqua
Marni
Raf Simons
Jil Sander


ทิ้งท้ายด้วยการเล่นสนุกกับลุคหลุดโลก ลุคแฟนตาซี พ่อมดแฟชั่น John Galliano เลือกบรรยากาศแห่งยุค Tudor ของอังกฤษ พร้อมกับสาดความสนุกด้วยการสร้าง volume และ texture ทิ้งท้ายที่ Walter Van Beirendonck ที่หลุดไปไกลด้วยสีสันบาดตา กราฟิกการ์ตูน ที่ชี้ชวนให้เหล่าแฟชั่นเอดิเตอร์ติดขอบรันเวย์ตกตะลึง

John Galliano
Walter Van Beirendonck

The Palette of Menswear A/W 2008-2009

แถวบนจากซ้ายไปขวา : Alessandro Dell'Acqua, Ann Demeulemeester, Bottega Veneta, Calvin Klein แถวสอง : John Galliano, Jil Sander, Gucci, Costume National แถวสาม : Neil Barrett, Yves Saint Laurent
ซีซั่นนี้ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเข้มขรึมของสีดำแบบหัวจรดเท้า ไม่ว่าจะมีเลเยอร์ทับซ้อนหรือมินิมัลลิสม์ ไม่ว่าจะโชว์เท็กซ์เจอร์แปลกตาหรือเรียบโก้ด้วยคัตติ้ง ต่างได้ผลลัพธ์ที่ไม่ต่างกัน ซึ่งนั่นก็คือการสร้างอารมณ์จริงจัง และเป็นทางการ

แถวบนจากซ้ายไปขวา : Dior Homme, Calvin Klein, Costume National, Jil Sander, D&G, Etro แถวสอง : Jean-Paul Gaultier, Burberry Prorsum, Versace,Yves Saint Laurent, D&G แถวสาม : Jean-Paul Gaultier, Burberry Prorsum, Ann Demeulemeester, Jil Sander แถวสี่ : Versace, Etro
สีเทอควอยซ์สดกระจ่าง สีเขียวใบเฟิร์นแสนสดชื่น หรือไม่ว่าสีไหนๆ ต่างถูกลดเฉดให้หม่นลง ให้ได้ระนาบเดียวกับสีเกาลัดและสีม่วงเบอร์กันดี จนเมื่อมองอย่างถ้วนทั่ว ภาพเจ้าชายแห่งยุโรปกลางสวมรองเท้ากำมะหยี่ก็ลอยเข้ามาในหัว

แถวบนจากซ้ายไปขวา : Emmanuel Ungaro, Fendi, Calvin Klein, Bottega Veneta, Dolce&Gabbana แถวสอง : Giorgio Armani, Yves Saint Laurent, Raf Simons, Calvin Klein
สีคอนกรีต สีควันบุหรี่ สี charcoal สี ash ทุกเฉดของสีเทา ต่างพาเหรดมาบนรันเวย์แซมด้วยสีเบจ และสีโทนอ่อนอื่นๆ


แถวบนจากซ้ายไปขวา : Bottega Veneta, Emporio Armani, Versace, Louis Vuitton แถวสอง : Yohji Yamamoto, Prada, Jil Sander แถวสาม : Missoni, Miharayasuhiro
เฉดน้ำเงินกระจัดกระจายไปตามคอลเล็กชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะแซมกับสีดำและโทนสีพื้นอื่นๆ หรือแม้แต่โทนสีกลาง สีฟ้าแห่งท้องทะเลและสีน้ำเงินโคบอลต์ดูจะเข้าวินที่สุด ดูสดใสสะท้อนวัยแรกรุ่น กระตุ้นอารมณ์ความรู้สึก กลางวันใส่ได้กลางคืนใส่ดี

1 ความคิดเห็น:

litschool-principal กล่าวว่า...

ถามถึงนายแบบ นายแบบก็มา เจ๋ง