8.24.2551

Top Trends - Milan Fashion Week A/W 2008-2009

ดังคำในแคมเปญโปรโมตคราวนี้ 'Let Yourself Be Charmed by an italian' และด้วยความผันผวนของเศรษฐกิจและการเมืองที่ค่าเงินยูเอส ดอลล่าร์อ่อนค่าลง แต่ค่าเงินยูโรกลับแข็งค่าขึ้น มิลานไม่เคยสิ้นมนต์ขลัง เซ็ตเทรนด์ที่ทรงอิทธิพลอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ในซีซั่นใหม่นี้ เต็มไปด้วยกลิ่นไอเรโทร ผสมรูปแบบเชิงทดลอง ที่กลมกลืนกับสุภาพสตรี ทุกสิ่งถูกสร้างให้เห็นเป็นรูปธรรมด้วยการตัดเย็บชั้นสูง แฟชั่นวีคคราวนี้เราได้เห็นสาวนีโอ-โบฮีเมียน สาวในชุดที่มีวอลุ่มโอเวอร์ไซส์ สาวยุคอนาคตที่โก้เก๋แปลกตาแต่ก็ดูคลาสสิกไร้กาลเวลามากำหนดเช่นกัน

Ultra Violet

จากปกติที่แต่ละคอลเล็กชั่นประจำฤดูกาลมักเลือกสีดำและเทา แต่ความงามมันวาวของผ้าซาตินสีที่สะท้อนความเป็นผู้หญิงได้เป็นอย่างดีมักถูกเลือกมาเพื่อสร้างความน่าสนใจได้ดีทุกครั้ง โดยเฉพาะสีม่วงที่คราวนี้มาแรงแข่งกับสีน้ำเงินแบบ Klein ที่ฮิตมาก่อนหน้านี้
- Alberta Ferretti เลือกมาใช้เป็นทั้งลุคในเทรนช์โค๊ท working girl ที่ทั้งดูใช้งานได้จริง สุดชิคและเทรนดี้
- Burberry Prorsum เลือกเพิ่มความโดดเด่นให้สีม่วงด้วยการเล่นวอลุ่ม ถือว่า Christopher Bailey ทำงานอย่างหนักกับการปรับโครงสร้างลุค preppy girl และการเพิ่มรายละเอียดของผ้าขนสัตว์เข้าไป
- ความเป็นร๊อคที่ Moschino ไม่ได้สร้างความแปลกใหม่ให้กับสีอันทรงเสน่ห์นี้ punko-rebel ในลิตเติ้ลแบลคเดรสถูกเพิ่มเติมด้วยลายพิมพ์สีม่วงจัดจ้าน นับได้ว่านำความเป็นลอนดอนเนอร์มาผนวกกับอารยธรรมกูตูร์แบบอิตาเลียน
สรุปได้ว่า การให้บทบาทกับสีม่วง น่าจะมีความเด่นชัด และมีน้ำหนักเต็มที่ ถูกใจนักวิจารณ์แฟชั่นมากกว่าการให้ความสำคัญแบบครึ่งๆ กลางๆ

La Vie en Rose

ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับอิทธิพลของหนังชั้นดีอย่าง 'La vie en rose' หรือไม่ ที่ทำให้ห้องเสื้อจากอิตาลี นัดกันดึงสีชมพูสดใสมาประดับรันเวย์
- ที่ Versace ไม่มีคำว่าน้อย Donatella มักเลือกสร้างลุคที่ชัดเจนเสมอ ด้วยแรงบันดาลใจจากบาร์บี้ที่มาในเวอร์ชั่นหรูหราและทรงเสน่ห์ แถมดูเป็นสไตล์ Paris Hilton นิดๆ
- เสมือนขนม macaron สีลูกกวาด ผสมกับซิลลูเอตที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ไปแล้วที่ Marni ที่หนาวนี้ดูสดใสกว่าที่เคยด้วยชมพูแบบทูโทน
- ชุดลำลองแบบ Missoni ที่ไม่สนใจกับลายพิมพ์ตามถนัดของแบรนด์ แต่เลือกสร้างความชัดเจนให้กับการเลือกใช้สีแทน สีชมพูทับทิมเลยดูชิคที่สุดในลุค masculine/feminine นี้

Timeless Tartan

จากปัจจุบันพิสูจน์ให้เห็นว่าลายสก็อตไม่ได้กระจุกตัวอยู่ที่ประเทศต้นกำเนิดอย่างสก็อตแลนด์และไม่ได้เป็นการเสริมให้มีลุคแบบพังค์เต็มขั้นอีกต่อไป เพราะได้กลายเป็นชิ้นเบสิกในทุกไอเท่มเท่าที่จะเป็นได้
- ที่ D&G เราได้เห็น melting pot กล่าวคือเป็นการหลอมรวมลายคลาสสิกนี้แบบไม่สนใจถึงกฏระเบียบแฟชั่นที่ว่าลายเดียวกันไม่ควรถูกนำมารวมกันแบบหัวจรดเท้า สองดีไซเนอร์จากอิตาลีทำให้เรารู้ว่าทุกปัญหามีทางแก้ เพราะลายสก็อตและลายสก็อต สามารถอยู่รวมกันอย่างสวยและสง่างามได้เช่นกัน
- สำหรับ DSquared2 เทน้ำหนักไปที่กระโปรงเอวสูงที่เข้าคู่กับเบสิกไอเท่มอย่างเสื้อเชิ้ตสีขาว ดูเป็น british uniform ที่มีคลาส
- ส่วนดาราสาว Faye Dunaway จากภาพยนต์เรื่อง Puzzle of a Downfall Child เข้าตา Roberto Cavalli จนเกิดเป็นคอลเล็กชั่นใหม่ที่ Just Cavalli กลิ่นไอของดินแดนใหม่อย่างอเมริกาผสมกับลุคแบบ bobo chic

Chic Volume

ซิลลูเอตแบบโป่งพอง และเสื้อผ้าแบบโอเวอร์ไซส์ปกปิดทรวดทรงองค์เอวไว้ภายใต้ ยังคงเหมาะกับสาวที่เรื่องเรือนร่างไม่เพอร์เฟ็กต์เป็นปัญหาใหญ่สำหรับพวกเธอ - Marni สร้างเลเยอร์ทับซ้อน และคัตติ้งแบบเรียบเนี๊ยบ ทั้งแบบเรขาคณิตและมีเหลี่ยมมุม Consuela Castiglioni เจ้าแม่แห่งวงการในเรื่องวอลุ่มอันถูกที่ถูกเวลา ยังคงไปได้สวยตามสไตล์ที่เธอโปรดปราน
- ส่วนที่ Missoni ลายพิมพ์ถูกดึงเข้ามาเพื่อสร้างภาพลวงตา เสริมความต่อเนื่องให้กับลายพิมพ์ด้านในของเสื้อโค๊ทที่มีความยาวเท่ากันพอดิบพอดี
- และที่ Gianfranco Ferre ที่สร้าง dress code ให้กับฤดูกาลด้วย ชุดเดรสมินิหรือไมโคร สวมทับด้วยโค๊ทขนสัตว์โอเวอร์ไซส์ปกคลุมเรือนร่างสุดเซ็กซี่

นอกจากนี้ในมิลานแฟชั่นวีค เรายังได้พบกับสิ่งต่อไปนี้
-ความยาวของกระโปรงส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณเข่าหรือครึ่งแข้ง
-เสื้อสูท เสื้อกั๊กแบบเทเลอร์คัท กระจายอยู่เกือบทุกรันเวย์
-วัตถุดิบและการตัดเย็บอิงกระแสมาจากงานสถาปัตยกรรมที่ดึงสายตาให้มองเป็นภาพสามมิติ
-ผ้าพันคอถูดลดวาไรตี้ในการนำมาประดับจนเหลือแต่การพันในสไตล์ british ที่ Dolce&Gabbana

ไม่มีความคิดเห็น: